Tuesday, August 27, 2013
Thursday, July 25, 2013
ของขวัญวันแม่ ภาพ “ A photographer' s gift for his mom ” จาก AtomicZen
“ A photographer' s gift for his mom ”
ภาพตรงหน้าคือดาวเต็มท้องฟ้า ทางช้างเผือกและโบสถ์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ Tekapo ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมดาวที่สวยที่สุด 1 ใน 5 ของโลก ภาพถ่ายใบนี้ ถ่ายไว้เพราะอยากส่งให้คุณแม่ที่อยู่ไกล ได้เห็นความสวยงามไปด้วยกัน
นี่คือ หนึ่งในภาพยอดนิยม และติดอันดับภาพขายดีใน 500px.comจากผลงานสุดยอดช่างภาพ Landscape ชาวไทย คุณAtomicZen
สุดยอดผลงานภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยความหมาย เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นของขวัญสำหรับคุณแม่เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นี้ จากเรา http://www.photocanvas.in.th
สามารถสั่งซื้อได้ที่
http://www.photocanvas.in.th/ของขวัญวันแม่
Thursday, July 11, 2013
[ Lightroom ] เทคนิคการสร้างมิติของภาพ
ไปถ่ายงานรับปริญญาเพื่อนมาครับ รอบนี้ไปแบบอุปกรณ์ไม่ครบเท่าไหร่ ไม่ได้ใช้แฟลชแยก ภาพที่ออกมาจึงแบนๆ ไม่ค่อยมีทิศทางแสงที่จะทำให้ภาพดูมีมิติเท่าไหร่ แสงดูแบนๆไปหมดจากหลังกล้อง
แต่นั่นคือจากหลังกล้องครับ อิอิ มันยังทำต่อได้อีก ขอให้มีภาพในหัวว่าชอตมันจะ "ต้อง" ออกมายังไงเท่านั่น เราเตรียมการได้หมด แล้วแต่เทคนิคและวิธีการ ถ้าเจอสถานะการณ์อุปกรณ์ไม่ครบแบบนี้ วิธีรับมือคือ
- ถ่าย RAW เราต้องการไฟล์ข้อมูลที่มีรายละเอียดเยอะสุด เพื่อขั้นตอน process จะได้ขุดเอารายละเอียดที่ต้องการออกมาทำได้เยอะที่สุดครับ
- ถ่ายให้คลุม dynamic range ไม่มีส่วน under หรือ over จนรายละเอียดหายไป ตรงนี้เราต้องรู้ขอบเขตความสามารถ dynamic range ของกล้องเราด้วย สังเกตุที่ Histogram อย่าให้แตะด้านใดด้านหนึ่ง มากไป
- Focus ให้เข้า แสงหรือรายละเอียดอาจจะขุดหรือดันได้ แต่ focus พลาด เป็นสิ่งที่แก้ไขได้ยากมาก
คอนเซปท์เราคือการทำภาพให้มีมิติขึ้นมา ในสไตล์ portrait แบบภาพตัวอย่างนี้ เราจะทำการแยกตัวแบบออกจากฉากหลังกันครับ ในที่นี้จะใช้การ ใช้ contrast ของแสง และ ใช้การเบลอ ในการแยกครับ
เมื่อได้ไฟล์ภาพมาแล้ว(.NEF,.CR2) จัดการแบ่งประเภทไฟล์ตามการใช้งานเลยครับ จากนั้นสังเกต Histogram ว่ามีส่วนไหนไปแตะ Under/Over หรือไม่ ถ้ามี ดึงมันออกมา เอารายละเอียดคืนมาครับ
เราจะใช้ Brush ปรับหัวฟุ้งๆ(Feather เต็มที่ Flow 50) ในการปรับสีตามตำแหน่งครับ ที่ต้องทำก็จะมี
1. เพิ่มความเด่นของแบบ Exposure++ , Color ตามสีผิวของแบบครับ ค่อยๆป้ายไป
2. เพิ่มสีสันของฉากต้นไม้ข้างหลัง Exposure+ , Color ตามโทนสีต้นไม้
3. เบลอฉากหลัง Clarity--- , Sharpness--- ป้ายไปที่ฉากหลังครับ
4. ใส่แสงแฟลร์ โทนเหลืองลงไปครับ ทำสองชั้น กว้างๆ(Flow25) และ แกนของแสง(Flow70)
จบแล้วครับสำหรับภาพนี้ แนะนำว่าซูมดู mood/tone โดยรวมบ่อยๆ อย่าให้มันดูหลอกตามากไปครับ ทำๆบ่อยแล้วจะชำนาญ
ฝากร้านหน่อยจ่ะ ใครจะไปงานรับปริญญาแล้วหาของขวัญไม่ได้ก็ลองดูนี่ครับ
Thursday, July 4, 2013
รู้จัก Tour De France ในสิบนาที [ Animation ]
ช่วงนี้ชาวจักรยานกำลังตื่นเต้นตัวสั่น รีบกลับบ้านเปิดทีวีดูถ่ายทอดสด Tour De France ครั้งที่ 100 ผมไปเจอวิดีโอ Animation ชิ้นนี้มา เป็นการแนะนำ Tour De France ยอมรับว่าคนทำทำได้มาก แต่สำเนียงฝรั่งเศสไปหน่อยนะ ฮ่าๆ
ฝากร้านหน่อยจ่ะ ใครจะไปงานรับปริญญาแล้วหาของขวัญไม่ได้ก็ลองดูนี่ครับ
Tuesday, July 2, 2013
iWatch มาแน่! Apple เริ่มจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแล้ว
หลังจากมีข่าวลือเรื่อง iWatch มานาน ทั้งรูป Design และ Feature ที่เดากันไปต่างๆนานาก็มีออกมามากมาย ล่าสุด มีข่าวลือว่า apple ได้ทำการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า iWatch ในหลายๆ ประเทศแล้ว
ซึ่งตามข่าวแล้ว เจ้า iWatch นี้จะออกเปิดตัวภายในปลายปีนี้
http://www.photocanvas.in.th/
Tuesday, June 25, 2013
iBackPack เปลี่ยน เป้ และ ipad เป็นสัญญาณจักรยาน
ช่วงนี้ผู้คนหันมาขี่จักรยานกันเยอะมากครับ สำหรับนักปั่นในเมืองทั้งหลาย ที่ต้องผจญกับการจราจรใน กทม. การมีสัญญาณไปเลี้ยว ไฟเบรคติดรถไว้น่าจะดีเลยครับ
iBackpack รูปร่างหน้าตาเป็นแค่กระเป๋า Backpack ใบหนึ่ง ที่ข้างหลังมีช่องเสียบไอแพด และมี application หนึ่งตัวไว้ส่งสัญญาณจากไอโฟนที่อยู่หน้ารถ ไปแสดงผลที่จอของไอแพด ให้รถข้างหลังได้เห็น หรือเอาภาพจาก กล้องหน้า ของไอแพดมาขึ้นที่จอไอโฟนเป็น rear mirror โห้วว ไอเดียเจ๋งมาก !
สัญญาณต่างๆ
- เลี้ยว ใช้มือปัดจอไอโฟนไปทางซ้ายหรือขวา หรือ เลี้ยวอัตโนมัติโดยใช้ gyro เมื่อแฮนด์เลี้ยว
- เบรค อัตโนมัติ เมื่อความเร็วลดลง
- กระจกหลัง ดึงเอาภาพจากกล้องหน้าของไอแพดมาแสดง
หน้าตาและ features ของ App
โดยรวมแล้วไอเดียเจ๋งมากๆ ถึงมากที่สุด เรียกได้ว่าถ้าออกขายเมื่อไหร่ คงได้เห็นเต็มถนนแน่ๆ แต่เสียดายที่งานชิ้นนี้ยังเป็นแค่ไอเดียอยู่ ผลงานชิ้นนี้เป็นของ ดีไซเนอร์ Soohun Jung ใครสนใจงานเจ๋งๆอื่นของนายคนนี้ก็เชิญได้ที่ http://soohunjung.com/ ครับผม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนเก่าๆ
[Photoshop] ปรับปรุงภาพให้น่าดูขึ้นในไม่กี่ขึ้นตอน
[Photshop] สร้าง Action resize รูปภาพและ Unsharp Mask ในจึ๊กเดียว
[Photoshop] ย้อมสี-ใส่หมอก
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.photocanvas.in.th/
[ Lightroom ]เทคนิคการใช้ adobe Photoshop lightroom ตอน การจัดการรูป
เชื่อว่าช่างภาพรับปริญญาหลายๆคน เคยประสบปัญหาในการแต่งภาพหลังจบงานถ่าย เช่น ถ่ายมาเยอะไป เริ่มแต่งยังไงดี? ปัญหาพวกนี้แก้ไขได้โดยจัดระบบการทำงานใหม่ครับ จะได้ไม่เหนื่อยและงานลูกค้าไม่เสียด้วยครับ
ถ่ายมาเยอะไป
การถ่ายภาพงานรับปริญญา(ยกตัวอย่าง event นี้ก่อนนะครับ ปวดหัวดี) ผมจะแบ่งประเภทภาพออกเป็น สองประเภทใหญ่ๆ- ภาพถ่ายกับเพื่อน และ ญาติๆ ภาพกลุ่มนี้เป็นลักษณะถ่ายบุคคลเป็นกลุ่ม ช็อตเดียวสองช็อตต้องได้(เพราะเรียกรวมอีกทีอาจจะไม่ได้แล้ว) เป็นภาพเก็บหลักฐานว่าชั้นมาร่วมงานเธอนะ อิอิ ภาพแบบนี้จะเยอะมาในวันรับจริง.
- ภาพถ่ายสวยงาม ถ่ายจริงจัง เซ็ตถ่าย ภาพกลุ่มนี้เป็นภาพที่เราหรือบัณฑิตตั้งใจจะถ่ายจริงๆ เช่น "พี่คะหนูอยากถ่ายกับตึกโดมแบบเบลอๆสวยๆ โอเคจ่ะ เดี๋ยวเราไปเดินหาโลกัน พี่มองไว้แล้วสองสามมุม ปะปะ" ภาพกลุ่มนี้เราจะจัดเต็มเป็นพิเศษ ใส่เทคนิคเต็มที่ทำให้ภาพออกมาสวยและ "ถูกใจบัณฑิต" ซึ่งช๊อตแบบนี้เราจะมีเวลา "คิดก่อนถ่าย" มากกว่า ฉะนั้นวางแผนให้ดีครับ เช่นกล้องเรา DR ไม่พอแต่ในหัวเราอยากได้รายละเอียดฟ้าสวยๆ เราอาจจะต้องถ่ายฟ้าที่มุมเดิมไว้เป็น material ในการทำภาพครับ การวางแผนก่อนถ่ายจะทำให้จำนวนภาพที่เราถ่ายมาต่อหนึ่งช็อตน้อยลงครับ แต่งง่ายกว่ากดมารัวๆสิบกว่าช็อต
เริ่มแต่งยังไงดี?
เรามาพูดถึงคอนเซ็ปการทำงานหลังจากได้ไฟล์ภาพมาแล้วครับ ตอนนี้เราจะมีภาพ 3 ประเภทอยู่ใน memory แล้วครับ ภาพทั่วไป(เพื่อน,ญาติ),ภาพเซ็ตถ่าย และภาพเสีย เราก็จะมาแบ่งมันออกเป็นสามส่วนโดยใช้ tools ช่วยครับถ้าบ้านๆเลยเราจะใช้ Photoshop เดี่ยวๆในการแต่งภาพ แยกไฟล์เป็นโฟลเดอร์แล้วค่อยๆ import เข้ามาใน PS แต่งๆๆ (อาจจะทำ actions ไว้เพื่อความเร็ว) แล้วก็เซฟ ซึ่งการทำแบบนี้เป็นการใช้ทรัพยากรแบบสิ้นเปลืองมากๆ(สุขภาพ,memory,เวลา) ถ่ายมาสามสี่งานอาจจะตายหน้าคอมได้ หรือคอมอาจจะพังไฟล์หายก่อนส่ง เพราะ Photoshop ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับสไตล์การทำงานกับไฟล์ภาพหลายๆไฟล์ครับ
มันถึงได้มี Photoshop lightroom ออกมา เจ้า LR นี้จะเป็นลูกของ PS ซึ่งจะรวบเอา features .ใน PS ที่จำเป็นสำหรับช่างภาพ และเพิ่ม features ที่จำเป็นอื่นๆเข้ามา เช่น การจัดการ collection ภาพ,Camera calibration by metadata หรือ Export feature
1. การแบ่งภาพเป็นส่วนๆ
ตรงนี้สำคัญมากครับ เราจะใช้ feature การให้ "Rate"(ดาว) ของภาพในการจำแนกภาพออกเป็นกลุ่มครับ (บางคนใช้ flag) เรามาเริ่มตั้งแต่การ สร้าง catalog กันเลยครับ
ตั้งชื่อ Catalog
ได้ Catalog มาแล้ว เราก็เริ่ม Import ไฟล์ภาพเข้า
Browse ไปที่ Folder เก็บไฟล์ของเรา กด Check All เพื่อเลือกทั้งหมด จากนั้นกด Import ครับ
ภาพทั้งหมดก็จะมาอยู่ใน Catalog ของเราแล้ว ตอนนี้เราอยู่ที่ tab Library ครับ เพื่อจัดการเรื่อง Rating กันก่อน กดเลข keyboard เพื่อให้ Rate ได้เลยครับ ตรงนี้ให้เราเลือกดูรูปเลยครับ ตามประเภทข้างบน ภาพหมู่รวมๆ(ไว้ Rate 2) ภาพกะแต่งจริงจัง(ไว้ Rate 1) ภาพเสีย (ไว้ Rate 3)
จะสังเกตุว่าตอนนี้ Catalog เรายังแสดงผลภาพทุก Rate อยู่ ให้เราไปปรับตรง filter ครับ ให้เป็น Rating is equal to เลย จะได้แสดงผลเฉพาะ กลุ่มที่เราแบ่งไว้เป็นกลุ่มๆเท่านั้น
เสร็จสิ้นแล้วครับสำหรับการแบ่ง Rate ภาพเพื่อง่ายต่อการแต่ง
2. การใช้ Preset ช่วยในการแต่ง
Preset ใน LR ก็คล้ายๆ Action ใน PS แหล่ะครับ เพียงแต่ Preset จะคุมแค่ค่า Parameter ต่างๆที่เข้ามาทำกับไฟล์ของเรา ไม่ได้ record ทุก Activities เหมือน Action บน PS
คอนเซ็ปการนำ Preset มาช่วยในการแต่งภาพก็คือ ใช้ปรับปรุงแสงของภาพทีละหลายๆภาพพร้อมๆกัน อันนี้จะใช้ได้ในกรณี ถ่ายมาในสภาพแสงเดียวกัน (เช่น เซ็ตนี้ถ่ายบนอาคารเรียน หรือสถานที่ปิด แสงแน่นอน) เทคนิคนี้จะช่วยย่นเวลาในการแต่งภาพ เพื่อนๆญาติๆ ที่เราไม่ได้ตั้งใจจะเจาะลงไปแต่งได้ดีทีเดียว
เราย้ายไปที่ Tab Develop กันเลยครับ
จากนั้นให้เราเลือกภาพจากชุดแสงนั้นๆมาแต่งหนึ่งภาพ แนะนำว่าอย่าอัดค่าต่างๆลงไปตูมเดียว แต่งบางๆ พอให้ไม่หลุด histogram พอครับ เรื่องสีก็ย้อมลงไปที่ Shadow กับ Highlight เบาๆครับ เมื่อได้ที่แล้วกด + ตรง Presets panel เลยครับ จะมีหน้าต่าง ให้เราตั้งชื่อ Preset ใหม่ของเรา และจะให้เลือกว่าเราจะเอาค่าอะไรเซฟลงไปมั่ง ผมเลือกทั้งหมดครับ กด Create เลย
Preset ใหม่ของเราก็จะมาโผล่ที่ หมวด User's preset ใน Presets panel ส่วนวิธีใช้ก็คือ เลือกที่ภาพแล้ว กดที่ Preset ค่าต่างๆก็จะวิ่งไปเข้าภาพที่เราเลือกทันที (เราเลือกทีละหลายๆภาพเพื่อความเร็ว)
การใช้ Preset ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำภาพก็จริงครับ แต่เราความมาเช็คภาพทีละภาพด้วยนะครับ ไม่ใช่รวบแล้วกด แล้วไปเลย โอกาสภาพจะเพี้ยนมีสูงครับ ตรงนี้ผมจะใช้แค่บางๆ เช่น เพิ่ม Sharpening ย้อม Magenta ทำ vignette ผมจะแยกไว้เลยครับ กดสองสามทีก็ได้
3. Save ไฟล์ภาพแบบรวดเร็ว
แต่เดิม เราใช้ PS จะต้องเซฟไฟล์ทีละไฟล์ หรือไม่ก็ต้องใช้ Action สำหรับ Save ในการเซฟ แต่ใน LR เราสามารถ รวบไฟล์ทั้งกลุ่ม แล้วกด Export ออกไปทีเดียวได้เลย ที่เหลือก็แค่นั่งรอ เอาเวลาไปเปิด Illust ทำปก DVD ดีกว่า ฮ่าๆ
กดเลือกภาพสักภาพแล้วกด Ctrl+A เลยครับ (Select All) จากนั้นไปที่ File > Export
เลือก Folder ที่จะ save ลงครับ ส่วนค่าข้างล่างจะเป็น การตั้งชื่อไฟล์ การย่อไฟล์(ย่อแล้วคุณภาพเสียครับ ไปใช้นี่ดีกว่า สร้าง Action resize รูปภาพและ Unsharp Mask ในจึ๊กเดียว ) LR ยังมี Preset สำหรับ save อยู่ข้างๆไว้ให้ใช้อยู่ด้วยครับ ลองดู
ภาพ Rate2(เพื่อนๆ ญาติๆ) : ปรับปรุงแสง+สีใน LR > Recheck > Export
ภาพ Rate1(แต่งจริงจัง) : ขุดไฟล์ ดึงรายละเอียดขึ้นมา > Export > แต่ง + Retouch ใน PS + Save
ตอนเก่าๆ
[Photoshop] ปรับปรุงภาพให้น่าดูขึ้นในไม่กี่ขึ้นตอน
[Photshop] สร้าง Action resize รูปภาพและ Unsharp Mask ในจึ๊กเดียว
[Photoshop] ย้อมสี-ใส่หมอก
http://www.photocanvas.in.th/
Sunday, June 23, 2013
ยิงธนูที่ archerythai มือใหม่หัดยิง
กีฬายิงธนูเป็นกีฬาที่ผมอยากจะเข้าไปสัมผัสมานานแล้วครับ สิ่งที่ทำให้อยากเข้าไปลองเล่นดูคงเป็นเรื่องสมาธิล่ะมั้งครับ และเห็นเวลาคนเค้ายิงธนูแข่งขันกัน โคตรเท่ครับ!
ไม่รอช้าครับ จัดแจงหาข้อมูลสนามยิงธนูในประเทศไทย สรุปได้ว่า มีใหญ่ๆสองที่ในเขต กทม. คือ ที่ Archerythai (13.773535,100.597244) และ การกีฬาแห่งประเทศไทย(13.75558,100.624814) ผมตัดสินใจไปที่ archerythai ครับ เพราะดูเป็นเอกชนดี
Archerythai เป็นสนามยิงธนูขนาด 14 (เป้า/ลู่/แถว/rows/ช่่อง/เลน) ตั้งอยู่ที่ (13.773535,100.597244) มีส่วนร้านขายธนูและอุปกรณ์ ร้านกาแฟเล็กๆ และสนามยิง เอาหล่ะถึงสนามแล้วที่จอดรถกว้างขวาง ฐานะที่เรามือใหม่สุดๆ เราเดินบวกเลยจ่ะ บอกพี่ๆในร้านว่าเราจะมาเรียนยิงธนูเบื้องต้น (เค้าตั้งชื่อคอร์สนี้ว่า Discovery หรูมะ? เมพมะ?) คอร์สมือใหม่นี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องผ่านถ้าจะมายิงธนูที่นี่ เพราะเค้าจะถามเลยว่าผ่านคอร์สนี้มายัง ถ้ายังจะไม่สามารถเช่าอุปกรณ์ได้จ่ะ(ไม่ใช่ Rag นะจ๊ะ ที่จะคว้ามาซอยปั๊กๆๆ)
Archery Discovery course เป็นคอร์สเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจครับ ระยะเวลา 30นาที ราคา 250 บาท สอนเรื่องกฏกติกามารยาทในการใช้สนาม สัญญาณต่างๆ อุปกรณต่างๆที่ใช้ในการยิง (ใช้ recurve bow) ท่ายิง ท่ายืน คุณครูดูแลดีครับ เปิดสอนเป็นรอบๆ ทุกชั่วโมงนะครับ ต้องนั่งรอนิดนึง
เมื่อจบเควสเปลี่ยนอาชีพแล้ว เราก็หาทางกลับมามอเลยครับ ถุ๊ย! ไม่ใช่เว้ย! เรียนคอร์สเริ่มต้นเสร็จแล้ว เราตัดสินใจ เช่าธนูยิงต่ออีกสักชั่วโมง อัตราก็ 250 บาท/hr จะได้อุปกรณ์เป็นธนูฝึก ลูก6ลูก armguard fingertab เค้าจะยังไม่ให้เรายิงไกลนะครับจนกว่าจะยิงเข้ากลางรัวๆที่ 5 เมตร
ระหว่างยิงก็สนุกดีครับ ถ้าไม่นับน้องผู้หญิง 9 ขวบข้างๆที่ซํดเป้า 15 เมตรเป๊ะๆ เด็กอะไร เก่งมากกก
บ่ายคล้อย คนเริ่มเข้ามายิงเยอะขึ้น เริ่มเห็นคนเอา compound bow มายิง เห็นแล้วค้างเลยฮะ แรงมาก ไม่มีย้อยเลย แถมนิ่งสุดๆ
แถมเรื่องประเภทของธนู
ธนูที่ยิงๆกันอยู่ตอนนี้มี 3 ประเภทครับ
1. Recurve Bow
เป็นธนูที่รูปร่างยังเป็นธนูอยู่ครับ ถอดประกอบได้สามส่วน Handle(คันธนู),Limb(เรียกไรดีวะ ขาธนู ละกัน),String เจ้า Recurve นี้จะมีศูนย์ให้เล็งและปรับด้วย
2. Compound Bow
ฝากร้านหน่อยจ่ะ ใครจะไปงานรับปริญญาแล้วหาของขวัญไม่ได้ก็ลองดูนี่ครับ
http://www.photocanvas.in.th/
ไม่รอช้าครับ จัดแจงหาข้อมูลสนามยิงธนูในประเทศไทย สรุปได้ว่า มีใหญ่ๆสองที่ในเขต กทม. คือ ที่ Archerythai (13.773535,100.597244) และ การกีฬาแห่งประเทศไทย(13.75558,100.624814) ผมตัดสินใจไปที่ archerythai ครับ เพราะดูเป็นเอกชนดี
Archerythai เป็นสนามยิงธนูขนาด 14 (เป้า/ลู่/แถว/rows/ช่่อง/เลน) ตั้งอยู่ที่ (13.773535,100.597244) มีส่วนร้านขายธนูและอุปกรณ์ ร้านกาแฟเล็กๆ และสนามยิง เอาหล่ะถึงสนามแล้วที่จอดรถกว้างขวาง ฐานะที่เรามือใหม่สุดๆ เราเดินบวกเลยจ่ะ บอกพี่ๆในร้านว่าเราจะมาเรียนยิงธนูเบื้องต้น (เค้าตั้งชื่อคอร์สนี้ว่า Discovery หรูมะ? เมพมะ?) คอร์สมือใหม่นี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องผ่านถ้าจะมายิงธนูที่นี่ เพราะเค้าจะถามเลยว่าผ่านคอร์สนี้มายัง ถ้ายังจะไม่สามารถเช่าอุปกรณ์ได้จ่ะ(ไม่ใช่ Rag นะจ๊ะ ที่จะคว้ามาซอยปั๊กๆๆ)
Archery Discovery course เป็นคอร์สเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจครับ ระยะเวลา 30นาที ราคา 250 บาท สอนเรื่องกฏกติกามารยาทในการใช้สนาม สัญญาณต่างๆ อุปกรณต่างๆที่ใช้ในการยิง (ใช้ recurve bow) ท่ายิง ท่ายืน คุณครูดูแลดีครับ เปิดสอนเป็นรอบๆ ทุกชั่วโมงนะครับ ต้องนั่งรอนิดนึง
เมื่อจบเควสเปลี่ยนอาชีพแล้ว เราก็หาทางกลับมามอเลยครับ ถุ๊ย! ไม่ใช่เว้ย! เรียนคอร์สเริ่มต้นเสร็จแล้ว เราตัดสินใจ เช่าธนูยิงต่ออีกสักชั่วโมง อัตราก็ 250 บาท/hr จะได้อุปกรณ์เป็นธนูฝึก ลูก6ลูก armguard fingertab เค้าจะยังไม่ให้เรายิงไกลนะครับจนกว่าจะยิงเข้ากลางรัวๆที่ 5 เมตร
ระหว่างยิงก็สนุกดีครับ ถ้าไม่นับน้องผู้หญิง 9 ขวบข้างๆที่ซํดเป้า 15 เมตรเป๊ะๆ เด็กอะไร เก่งมากกก
บ่ายคล้อย คนเริ่มเข้ามายิงเยอะขึ้น เริ่มเห็นคนเอา compound bow มายิง เห็นแล้วค้างเลยฮะ แรงมาก ไม่มีย้อยเลย แถมนิ่งสุดๆ
แถมเรื่องประเภทของธนู
ธนูที่ยิงๆกันอยู่ตอนนี้มี 3 ประเภทครับ
1. Recurve Bow
เป็นธนูที่รูปร่างยังเป็นธนูอยู่ครับ ถอดประกอบได้สามส่วน Handle(คันธนู),Limb(เรียกไรดีวะ ขาธนู ละกัน),String เจ้า Recurve นี้จะมีศูนย์ให้เล็งและปรับด้วย
2. Compound Bow
ธนูที่ไม่ค่อยจะเหมือนธนูเท่าไหร่ เหมือนเครื่องยิงอะไรซักอย่างมากกว่า มี ระบบรอกทดแรง ทำให้ยิงได้ง่ายและแรงขึ้น เวลาเล็งจะง่ายกว่า recurve
3. Traditional Bow
ธนูแบบดั้งเดิม ไม่มีเครื่องช่วยยิงอะไรเลย มีหลายแบบ เช่น ธนูญี่ปุ่น เกาหลี มองโกเลีย อะไรพื้นเมืองแบบนี้ แต่ที่ใช้วัสดุสมัยใหม่ก็มีนะ Traditional bow นี้จะใช้ทักษะนักธนูมากที่สุด(เค้าว่ากันว่า) อารมณ์แบบเลโกลัส ไรงี้
ตามต่อเรื่องประเภทธนู http://www.thailandoutdoor.com/ArcheryClub/Knowledge/TypeOfBow/typeofbow.html
** ส่วนตัวผมติดใจ recurve bow ครับ เพราะมันเท่และมันเป็นธนู ฮ่าๆ ถึงแม้จะยิงยากกว่า compound
** สายตีแขนมือใหม่ม่วงเลยครับ
http://www.photocanvas.in.th/
Friday, June 21, 2013
Instagram อัดภาพเคลื่อนไหวได้แล้ว
Instagram อัดภาพเคลื่อนไหวได้แล้ว
หลังจากที่มีข่าวลืออกมาว่า Instagram จะเพิ่ม feature บางอย่างใน update ต่อไป จนมาเมื่อคืนนี้ Instagram ได้ปล่อย update ออกมา สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ ได้เพิ่ม feature ถ่ายภาพเคลื่อไหวแบบ Vine เป๊ะๆ คือ Hold to rec ซึ่งการอัดแบบนี้จะทำให้สามารถทำ video+stopmotion ได้ (กดๆปล่อยๆ นั่นแหละฮะ)
โดย ผู้ที่จะชมวิดีโอได้จะต้องอัพเดทเวอร์ชั่นแล้วเท่านั้นนะครับ ว่าแล้วก็ไปอัพเดทกันซะนะครับ
* ส่วนตัวผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับ freature นี้ว่ะ ผมเล่น Instagram ตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ไม่มีดารานักร้องขายของฝากร้าน ตอนนั้น Instagram แม่งเป็นแหล่งเสพงานศิลป์ไปเลยครับ ศิลปินเจ๋งๆเอางานมาโชว์กันเพียบ แต่เดี๋ยวนี้มันต่างออกไป ยิ่งจะมีภาพเคลื่อนไหวแล้วล่ะก็ มันส์กันละครับพี่น้อง
ฝากร้านหน่อย ใครจะไปงานรับปริญญาแล้วหาของขวัญไม่ได้ก็ลองดูนี่ครับhttp://www.photocanvas.in.th/
Wednesday, June 19, 2013
แว่นที่ใส่แล้วหลบ Face detection ได้
แว่นที่ใส่แล้วหลบ Face detection ได้
ปกติแล้ว เครื่องมือหรืออุปกรณต่างๆในสมัยนี้ เช่นกล้อง dslr วงจรปิด มือถือ มีระบบ face detection กันหมดแล้ว หน้าที่ของมันก็คือ จะจับ pattern ของหน้าคน และอุปกรณนั้นๆก็จะรู้ว่า ตรงนี้คือคนนะ
เทคโนโลยีนี้มันอาจจะดีสำหรับตอนนี้ แต่ในอนาคตเราอาจต้องคิดถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่น ไม่อยากให้อุปกรณ์ตัวไหนมันรู้ว่าเราอยู่ไหน(แบบสายลับ ฮ่าๆ) เจ้าแว่นตาตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Japan’s National Institute of Informatics.
มันจะทำหน้าที่ ทำให้กล้องมองไม่เห็น pattren ของหน้าคนบนหน้าเรา โดยยิงแสงอินฟราเรทไปรบกวนการทำงานของกล้อง ทีนี้กล้องก็จะไม่สามารถระบุได้ว่านี่คือหน้าคน
ที่มา : http://petapixel.com/2013/06/19/these-privacy-glasses-use-infrared-light-to-hide-your-face-from-cameras/
ของขวัญรับปริญญา ที่บันฑิตอยากได้จริงๆคืออะไร?
ของขวัญรับปริญญา ที่บันฑิตอยากได้จริงๆคืออะไร?
น้องๆบัณฑิตรุ่นนี้ก็ทะยอยจบกันรัวๆ ซึ่งถ้าเรามีคอนเนคชั่นกับน้องๆเยอะหรือรู้จักคนมากหน่อย ช่วงเดือนนี้ก็จะเป็นช่วงเดินสายของเรา อาจจะต้องไปทั้ง 3พระจอม ธรรมศาสตร์ BU จุฬา เกษตร มหิดล ศิลปากร และที่อื่นๆ แล้วแต่ความกว้างขวาง ฮ่าๆ
วันนี้เรามาพูดถึงการเลือกของขวัญรับปริญญากันฮะ เจ้าของขวัญรับปริญญานี้ก็เป็นส่วนที่ "จำเป็น" สำหรับการไปร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่
ของขวัญหลักๆที่ฮิตกันอยู่ในขณะนี้ก็จะมี
- ช่อดอกไม้ทั้งสดและแห้ง อันนี้น้อยคนมากจะเตรียมไปจากบ้าน ส่วนมากจะไปหาเอาระหว่างเข้างานครับ ช่วงเช้าจะแพงมาก ถ้าเราไปเลทจนน้องจะเข้าหอประชุมแล้ว แนะนำว่าอย่าซื้อครับ รอช่วงใกล้ออกจากหอประชุมแล้วค่อยไปซื้อจะถูกกว่าและไม่เละด้วย
- ตุ๊กตาหมีใส่ชุดครุย เจ้าตัวนี้ก็ฮิตติดตลาดรอบๆงานเหมือนกัน พ่อค้าจะปั๊มหมีมาแล้วจับมาใส่ครุยสถาบันต่างๆ มีแถบสีคณะด้วย
- พร๊อบถ่ายรูปต่างๆ ป้าย "จบแล้วจ้า" ทะเบียนจบ แถบคาดนางสาวไทย มงกุฏดอกไม้ อะไรแบบนี้
เล็งดีๆนะครับ บางสถาบันไม่ให้บันฑิตใส่มงกุฏ หรือ แถบคาด ร่วมกับชุดครุยนะครับ - ภาพพิมพ์ของขวัญ อันนี้จะเป็นภาพพิมพ์รูปบัณฑิต ขนาดใหญ่ๆเลย เพื่อความอลังการ จากที่ผมเห็นมา เจ้าภาพพิมพ์นี่จะเป็นอะไรที่น้องบันฑิตได้รับแล้วประทับใจที่สุดนะครับ แต่แม่งเก็บลำบากชิบ เรียกว่าถ้าให้ใครก็ต้องดูดีๆฮะว่าเค้าจะลำบากรึเปล่า
ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่กับวงการรับปริญญานี้มานาน(เกือบ4ปี) ในฐานะช่างภาพ เรียกได้ว่าเคยไปมาเกือบทุกสถาบันหลักๆ แล้ว อยู่กับบันฑิตเกือบตลอดเวลางาน สำหรับผม ของขวัญที่ผมอยากจะให้บัณฑิตที่สุดก็คือ
นี่เลยครับ รถลาก!! เอาไว้เก็บพร๊อบ+ดอกไม้+ป้าย+ตุ๊กตา+กระเป๋า+อื่นๆ ที่เพื่อนๆญาติๆ ขนมาเป็นของขวัญรับปริญญา เห็นใจน้องบัณฑิตเลยนะ เยอะจริงๆ แถมจะวางไว้ก็ไม่ได้เพราะต้องเดิน จะไม่ถือก็จะหาว่าไม่สนใจ เสียน้ำใจ อู้ยย ลำบากสุดๆ ถ้าใครเข็นไอ้นี่มาเป็นของขวัญ ละก็ น้ำตาไหลครับ ยิ่งมีเก้าอี้ติดมาด้วยนี้ โอ้วว โผกอด!
Credit
ภาพบันฑิต ผมถ่ายเอง https://www.facebook.com/iinspirationphoto จ่ะ
ภาพพิมพ์แคนวาส จาก http://www.photocanvas.in.th/ จ่ะ
Friday, June 14, 2013
3D Printer ที่ทุกคนเอื้อมถึง The Buccaneer
3D Printer คือ เครื่องพิมพ์ที่สามารถพิมพ์วัตถุจากภาพสามมิติออกมาได้เหมือนจริง โดยใช้วัสดุต่างๆ เช่น plastic , โฟม , ABS Plastic
ซึ่งตอนนี้เจ้า 3D Printer และ Materials ของมันตอนนี้ยังราคาสูงอยู่มาก เพราะยังเป็นของใหม่ สด
ตอนนี้เว็บ Amazon.com ก็ได้เปิดหน้าสำหรับ 3D Printer โดยเฉพาะแล้วนะฮะ ( 3D Printer dpartment )
เรามาพูดถึงเจ้า Buccaneer กันดีกว่า
The Buccaneer เป็นโปรเจคจาก Kickstarter.com (The Buccaneer) ที่ตอนนี้(14/62013) ยังไม่ปิดร่วมทุนนะจ๊ะ แต่ก็กำลังจะหมดแล้ว($397 ได้เครื่องพิมพ์ชุดนึง) เจ้า The Buccaneer ถูกพัฒนาขึ้นโดย Pirate3D Inc
video แนะนำตัวก็ตามนี้ครับ
หลักการของพวกเค้าก็คือ ต้องการสร้าง 3D Printer ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ ราคาถูก ดีไซน์เป็นมิตรต่อผู้ใช้ ใช้งานง่าย ขนาดไม่ใหญ่มาก
จุดเด่นของเจ้า The Buccaneer ตัวนี้
set up ง่ายมาก ด้วยส่วนประกอบที่น้ำหนักเบาและการออกแบบที่แยกเป็นโมดูลสัดส่วนชัดเจน
มีแหล่ง Community ที่ช่วยกันแชร์แบบโมเดลเจ๋งๆ
มีโปรแกรมออกแบบเฉพาะ โดยใช้ smart object app ในการพิมพ์
สามารถพิมพ์ผ่าน wifi ได้
Thursday, June 13, 2013
Man of Steel (2013) บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน
Man of Steel (2013) บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน ( spoil ด้วยภาพ )
มีโอกาสได้ไปดู Man of steel เพราะฝนตก รถติดแน่ๆ ไหนๆก็มาห้างแล้ว อะดูก็ได้
เหตจูงใจหลักของเรื่องนี้คือ น้า Christopher Nolan แกร่วมเขียนบทด้วย ผมชอบแกนะ แกทำให้ batman กลายเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเยอะเลย
แต่ดูแล้วผิดหวังอะ นึกว่าจะเจอบท style น้า Nolan มากกว่านี้ มีซึมๆมาหน่อยเดียวเอง
เอาเป็นว่า ไม่วิจารณ์ละกัน ไม่ใช่สำนักอาศรมวิจารณ์หนัง เขียนยาวๆก็ไม่เป็น ฮ่าๆ
เอาฉากที่แว้บเข้ามาจากเรื่องอื่นมาแปะดีกว่า คิดได้หลายเรื่องเลย เพิ่มเติมตรงไหนบอกนะครับ ฮ่าๆ
เอาเป็นว่า ไม่วิจารณ์ละกัน ไม่ใช่สำนักอาศรมวิจารณ์หนัง เขียนยาวๆก็ไม่เป็น ฮ่าๆ
เอาฉากที่แว้บเข้ามาจากเรื่องอื่นมาแปะดีกว่า คิดได้หลายเรื่องเลย เพิ่มเติมตรงไหนบอกนะครับ ฮ่าๆ
ข้างล่างนี้เป็น spoil นะจ๊ะ
จบ
Subscribe to:
Posts (Atom)